การบริหารคลังสินค้าในยุคดิจิทัล จำเป็นต้องมีระบบ ERP จริงหรือไม่?
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการทำธุรกิจยุคดิจิทัล จำเป็นต้องมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำงาน โดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีก ค้าส่ง ซื้อมาขายไป และอุตสาหกรรมการผลิต ที่มีทั้งฝ่ายจัดซื้อ คลังสินค้า และฝ่ายผลิต ที่ต้องมีการบริหารคลังสินค้าที่ได้ประสิทธิภาพ ซึ่งหากบริหารจัดการได้ดี จะสามารถช่วยลดต้นทุน คุมงบประมาณ และคาดการณ์ความต้องการของลูกค้าได้แม่นยำ ซึ่งในปัจจุบันมีระบบที่สามารถเข้ามาช่วยในการบริหารคลังสินค้าได้อย่างเป็นระบบ นั้นคือ ระบบ ERP
ระบบ ERP กับการบริหารคลังสินค้า
ERP คือระบบบริหารธุรกิจที่สามารถเชื่อมโยงฝ่ายต่าง ๆ ในองค์กรให้ทำงานได้ภายใต้แพลตฟอร์มและฐานข้อมูลเดียวกัน ช่วยให้แต่ละฝ่ายทั้งฝ่ายบัญชี การเงิน จัดซื้อ คลังสินค้า และฝ่ายผลิต สามารถทำงานเชื่อมโยงกันได้อย่างเป็นระบบ มีข้อมูลที่ถูกต้องในการทำงาน เป็นระบบที่ช่วยให้ผู้บริหารสามารถบริหารคลังสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ
ประโยชน์ของระบบ ERP ในการบริหารคลังสินค้า
- ป้องกันไม่ให้เกิด สินค้าล้น/ขาดสต๊อก
ระบบ ERP สามารถเชื่อมโยงให้แต่ละฝ่ายรับรู้จำนวนสินค้าคงคลังที่ถูกต้อง ช่วยให้ฝ่ายจัดซื้อตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง หรือฝ่ายผลิตรับรู้ได้ว่าต้องผลิตสินค้าเท่าใด และยังสามารถควบคุมยอดการสั่งซื้อสินค้าได้ตามจุดต่ำสุด-สูงสุดของสินค้าในคงคลัง ลดการเกิดสินค้าล้นสต๊อกและสินค้าไม่เพียงพอต่อการจัดจำหน่าย
- รับรู้ความเคลื่อนไหวของสินค้า
ระบบ ERP สามารถเก็บข้อมูลการเคลื่อนไหวของสต๊อกได้ ทั้งสินค้าที่ไม่เคลื่อนไหวและสินค้าที่ถูกขายออกไปล่าช้า รวมถึงข้อมูลยอดขายสินค้าแต่ละชนิด สามารถนำไปวิเคราะห์ต่อได้ว่า สินค้าชนิดใดขายดี ชนิดใดขายไม่ดี เพื่อใช้ในการตัดสินใจสั่งซื้อ/สั่งผลิต
- บริหารต้นทุนได้ ทุนไม่จม
เมื่อมีข้อมูลสินค้าแต่ละชนิด ทำให้ตัดสินใจสั่งซื้อ/สั่งผลิตได้ถูกต้อง ป้องกันการซื้อสินค้าที่ขายไม่ดีมาเก็บจนค้างสต๊อก
- บริหารคลังสินค้าได้ตามความต้องการของธุรกิจ
ระบบ ERP ทำให้สามารถบริหารคลังสินค้าให้ไปในทิศทางเดียวกันกับความต้องการของธุรกิจได้ เนื่องจากมีการเก็บข้อมูลทั้งยอดขายและความเคลื่อนไหวของสินค้า ทำให้สามารถวิเคราะห์ได้ว่าสินค้าชนิดใดขายดี เป็นที่นิยม เพื่อนำไปใช้ตัดสินใจสั่งซื้อ/สั่งผลิต ได้ตรงตามความต้องการของตลาด
- บริหารจัดการงบประมาณได้
ระบบ ERP มีระบบการอนุมัติการจัดซื้อ ที่สามารถตั้งค่าเงื่อนไขการอนุมัติได้ตามต้องการ เช่น การอนุมัติตามวงเงิน ตามสัญญาคู่ค้า ตามเปอร์เซ็นต์กำไรขั้นต้น และตามงบประมาณ จะช่วยให้บริหารจัดการงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ติดตามสินค้าได้อย่างเป็นระบบ ป้องกันการสูญหาย
สามารถจำแนกและติดตามสินค้าที่เข้ามาด้วยหมายเลข Batch Code และ Serial Number ช่วยจัดการสินค้าเข้า-ออก ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
NEXcloud ERP กับการบริหารคลังสินค้าเพื่อธุรกิจ SMEs
ธุรกิจ SMEs แม้จะเป็นธุรกิจที่ไม่ซับซ้อนเท่าธุรกิจขนาดใหญ่ ๆ แต่ก็มีความจำเป็นที่ต้องปรับตัวนำดิจิทัลเข้ามาใช้ในการทำงาน เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปได้อย่างมีมาตรฐาน มีประสิทธิภาพ รองรับการเติบโตในอนาคต
NEXcloud ERP เป็นระบบ ERP เพื่อธุรกิจขนาดเล็ก-ขนาดกลาง โดยมี SAP Business One เป็นกลไกหลักในการทำงาน ให้ SMEs ไทยได้ใช้ระบบที่มีมาตรฐานในราคาที่ย่อมเยาและพร้อมขยายศักยภาพไปพร้อม ๆ กับการเติบโตของธุรกิจ โดยมีเทมเพลตธุรกิจที่ครอบคลุมการทำงานที่สำคัญ รวมถึงฟีเจอร์ที่ช่วยในการบริหารคลังสินค้า ทั้งการจัดซื้อ การบริหารจัดการข้อมูล การเชื่อมโยงระหว่างคลังสินค้าและการบัญชี การออกใบแจ้งหนี้ การยกเลิกสินค้า และใบลดหนี้ รวมถึงนำเสนอรายงานด้วยข้อมูลเรียลไทม์เป็นแผนภาพและรายงานในหลากหลายรูปแบบ
#NEXcloud ERP เพื่อนแท้ SMEs ที่เข้าถึงง่าย โดยทีมผู้เชี่ยวชาญระดับมืออาชีพ
สนใจระบบ NEXcloud ERP / ซอฟต์แวร์ธุรกิจ ปรึกษาฟรี!
☎️ โทร : 0800707196
📲 Line Official Account : @NEXcloudERP
📣 FB : NEXcloud solution
💻 เว็บไซต์ : https://nexcloudsolution.com
📧 อีเมล : Mkt.th@nexus-sr.com