5 กลยุทธ์ ดันธุรกิจ SMEs อย่างไรให้โต
ในการเริ่มต้นทำธุรกิจ เจ้าของธุรกิจทุกคนย่อมคาดหวังให้ธุรกิจเติบโต สามารถแข่งขันอยู่ในตลาดได้ แต่ในปัจจุบันมีธุรกิจเกิดขึ้นมากมาย การจะทำให้ธุรกิจเติบโตจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งธุรกิจขนาดเล็กหรือ ธุรกิจ SMEs ที่นอกจากจะต้องแข่งขันกับธุรกิจขนาดเดียวกันแล้ว อาจมีโอกาสต้องแข่งกับธุรกิจใหญ่ ๆ อีกด้วย เพราะผลิตภัณฑ์ บริการ อาจมีความคล้ายคลึงกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แล้วในวันที่ตลาดมีการแข่งขันสูง จะทำอย่างไรให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคง ลองมาดู 5 กลยุทธ์สำคัญ ที่จะช่วยดันธุรกิจ SMEs ให้เติบโต
5 กลยุทธ์ ดันธุรกิจ SMEs อย่างไรให้โต
1. มองธุรกิจใหญ่เป็นแหล่งเรียนรู้ ไม่ใช่คู่แข่ง
ในการทำธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ สินค้า หรือบริการของเรา อาจจะมีความคล้ายกับเจ้าใหญ่ ๆ หากเราจัดให้บริษัทใหญ่ ๆ เหล่านั้นเป็นคู่แข่ง แน่นอนว่าโอกาสชนะจะน้อยมาก ๆ เพราะบริษัทที่เติบโตแล้วจะมีประสบการณ์มากกว่า และศักยภาพที่มากกว่า ทั้งในรื่องของทรัพยากร แรงงาน เทคโนโลยี และคู่ค้า ดังนั้นเราควรมองบริษัทใหญ่เป็นเหมือนต้นแบบ เพื่อเรียนรู้วิธีการทำงาน แนวคิดในการจัดการสิ่งต่าง ๆ ทั้งพนักงาน การตลาด การสร้างแบรนด์ ศึกษาว่าทำอย่างไรบริษัทเหล่านั้นจึงเติบโตแซงคู่แข่งขึ้นมาได้
2. หาจุดเด่นเพื่อสร้างความแตกต่าง
เพราะคนทำธุรกิจมีจำนวนมาก ทำให้มีสินค้า ผลิตภัณฑ์หรือบริการ ประเภทเดียวกันเต็มตลาด หากเราทำเหมือน ๆ กับคนอื่น ไม่มีจุดที่แตกต่าง หรือจุดที่โดดเด่นออกมา ก็จะเกิดการแข่งขันสูงและโอกาสที่ลูกค้าจะเลือกเราก็น้อยลง และที่สำคัญลูกค้าอาจจดจำเราไม่ได้อีกด้วย
ดังนั้นการจะขึ้นเป็นผู้นำได้นั้น จะต้องหาความแตกต่างให้เจอ หาจุดเด่นที่เป็นจุดขาย สร้างภาพจำของแบรนด์ ให้ลูกค้าจดจำเราได้ ศึกษาความต้องการของกลุ่มลูกค้า เพื่อนำมาพัฒนาสินค้าและบริการได้ตรงความต้องการ
เช่น ธุรกิจผลิตสื้อยืด หากเป็นเสื้อยืดธรรมดา ก็ต้องแข่งขันกับธุรกิจน้อยใหญ่อีกมากมายที่ทำเสื้อยืดเหมือนกัน แต่ถ้าหากหาจุดเด่น พัฒนาสินค้าที่ตรงกับความต้องการลูกค้า โดยทำเสื้อยืดลดเหงื่อ ใส่สบายเหงื่อไม่ซึม ไม่เสียบุคลิก เราก็จะโดดเด่นออกมาจากเสื้อยืดธรรมดา มีจุดขายที่น่าสนใจ ลดจำนวนคู่แข่งได้เป็นจำนวนมาก เป็นต้น
3. ทำการตลาด
ธุรกิจขนาดเล็กหรือ SMEs มักจะไม่ให้ความสำคัญกับการทำการตลาด เพราะคิดว่าเป็นการสิ้นเปลือง เป็นการลงทุนโดยไม่เห็นลัพธ์กลับมาเป็นรูปธรรม แต่ความจริงแล้ว การทำการตลาดมีความสำคัญมาก เพราะธุรกิจที่พึ่งเริ่มต้น ยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ฐานลูกค้าน้อย หรือยังไม่น่าเชื่อถือมากพอ เนื่องจากลูกค้าไม่รู้จักเรา ดังนั้นการจะทำให้ลูกค้ารู้จักเรา จำเป็นต้องมีการโปรโมทเพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์
สำหรับธุรกิจแบบออฟไลน์ หรือธุรกิจที่มีหน้าร้าน อาจเลือกทำโปรโมชั่นดี ๆ เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าลองใช้ เช่น ลดราคา ให้ทดลองใช้ฟรี ซื้อ 1 แถม 1 เป็นต้น เป็นการสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้ารู้จักเราและจดจำเราได้ ยิ่งในยุคดิจิทัล การโปรโมทสินค้าทางออนไลน์ทำได้ง่าย สามารถเริ่มต้นได้แบบไม่เสียเงินอีกด้วย เช่น สร้างเพจเฟซบุ๊กเพื่อโปรโมทสินค้า ให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้า ที่มาที่ไปของแบรนด์ สร้าง TikTok เพื่อกระจายสินค้าให้เป็นที่รู้จักแบบไวรัล เป็นต้น
4. หาเครือข่ายพันธมิตร
การทำธุรกิจเพียงลำพังอาจทำให้เติบโตช้ากว่าธุรกิจที่มีพันธมิตร หรือธุรกิจที่มีคู่ค้า เพราะการมีพันธมิตรทางธุรกิจที่หลากหลาย จะทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ เทรนด์ใหม่ ๆ นำมาปรับใช้ในธุรกิจเราได้ และอาจนำไปสู่การร่วมมือกันในอนาคตได้ เช่น แบรนด์เสื้อผ้า Collaboration กับแบรนด์เครื่องดื่ม เกิดเป็นคอลเลกชันน่าสะสม เป็นต้น ซึ่งการ Collaboration เป็นการหยิบเอาจุดแข็งของแบรนด์ที่เป็นพันธมิตรมาทำตลาดร่วมกัน ทำให้ฐานลูกค้าทั้งสองฝ่ายรู้จักแบรนด์พันธมิตรมากขึ้น
5. นำเทคโนโลยีมาใช้
ธุรกิจขนาดเล็กหรือ SMEs มักคิดว่าการนำเทคโนโลยีหรือไอทีมาใช้เป็นเรื่องสิ้นเปลืองและยังไม่จำเป็น สามารถจดออเดอร์ ทำบัญชี บันทึกสต๊อกได้ด้วย Excel ทำเอกสารโดยฟาแบบฟอร์มจากอินเทอร์เน็ต แต่ความจริงแล้ว การทำธุรกิจแบบ Manual ทั้งจดมือ หรือใช้เพียง Excel นั้นไม่เพียงพออีกต่อไป พราะทำให้เกิดข้อผิดพลาดได้ง่ายและยังช้ากว่าคู่แข่งอีกด้วย
การทำธุรกิจยุคดิจิทัล จำเป็นต้องมีเครื่องมือเข้ามาช่วย เช่น ระบบ ERP ซอฟต์แวร์บริหารทรัพยากรธุรกิจ ที่สามารถเชื่อมโยงหน่วยงานในองค์กรให้ทำงานร่วมกันได้ภายใต้ฐานข้อมูลเดียวกัน ทั้งฝ่ายบัญชี จัดซื้อ การขาย คลังสินค้า และผลิต ช่วยลดข้อผิดพลาดในการทำงานได้ จัดทำบัญชี การเงินได้อย่างเป็นระบบ ติดตามเอกสารได้ง่าย ตรวจสอบได้ เพิ่มศักยภาพให้ธุรกิจ ส่งเสริมให้เติบโตได้อย่างรวดเร็ว เป็นต้น⠀
สำหรับธุรกิจ SMEs ที่กำลังมองหาระบบ ERP ที่เหมาะกับธุรกิจขนาดเล็ก-ขนาดกลาง หรือ ERP สำหรับ SMEs ไทย NEXcloud ERP เป็นหนึ่งในระบบ ERP ที่ตอบโจทย์ ด้วยราคาที่เอื้อมถึง มีเทมเพลทธุรกิจที่ครอบคลุมการทำงานหลายประเภทธุรกิจ และรองรับการเติบโตในอนาคตได้
NEXcloud ERP เป็นระบบคลาวด์ ERP โดยมี SAP Business One ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์มาตรฐานระดับโลกเป็นกลไกหลัก ในการทำงาน ครอบคลุมไปยังหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ทั้งธุรกิจบริการ ซื้อมาขายไป ค้าส่งค้าปลีก ธุรกิจที่มีคลังสินค้าและการผลิต สามารถเชื่อมต่อ e-Commerce และ Marketplace ได้ ตอบโจทย์รูปแบบธุรกิจไทย ด้วยโปรแกรมภาษี การวางบิล การจัดการเช็ค และการทำธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ มาพร้อมชุดแบบฟอร์มเอกสารรายงาน และแดชบอร์ดวิเคราะห์ข้อมูลอัจฉริยะ สำหรับการตัดสินใจและบริหารธุรกิจของคุณ
#NEXcloud ERP เพื่อนแท้ SMEs ที่เข้าถึงง่าย โดยทีมผู้เชี่ยวชาญระดับมืออาชีพ
สนใจระบบ NEXcloud ERP / ซอฟต์แวร์ธุรกิจ ปรึกษาฟรี!
☎️ โทร : 0800707196
📲 Line Official Account : @NEXcloudERP
📣 FB : NEXcloud solution
💻 เว็บไซต์ : https://nexcloudsolution.com
📧 อีเมล : Mkt.th@nexus-sr.com